top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนPrayoon Hongsathon

ระนาดเอกทางเปลี่ยน ตอน 5

ฝ่ายฉาก..เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ผ่าน!

หลังจากที่พาไปรู้จักและดูการทำงานของสองหัวหน้าที่เป็นผู้หญิงกันไปแล้ว ตอนนี้จะพามาดูการทำงานของฝั่งพวกแมนๆ ดูบ้าง เริ่มต้นที่พี่อาร์ท ผู้ชายตัวบึกๆ ที่ถูกจับยัดให้คุมฝ่ายฉากและจัดพร็อพเลยดีกว่า


อาร์ท วิทวัส พลพ่าย หากให้นับอาวุโสแล้วก็ถือเป็นรุ่นพี่มากๆ สถานะในบ้านเรียนมรดกใหม่ของเขาคือโจงดำ หมายถึงจบระดับมหาวิทยาลัยแล้วและช่วยทำหน้าที่สอนน้องๆ ได้ อาร์ทชอบเล่นดนตรี เคยไปเล่าเรียนวิชาดนตรีที่มหาวิทยาลัยศานตินิเกตัน ประเทศอินเดียอยู่สามสี่ปี แม้ไม่ได้เมียแขกกลับมาแต่อาร์ทก็ยังรักษากลิ่นตัวอันสาบจมูกผู้คนไว้อย่างภาคภูมิ สำหรับภารกิจทำหนังสร้างโรงเรียนกับการถ่ายทำ “ระนาดเอกทางเปลี่ยน” ดูเหมือนผู้คนจะกังวลอยู่บ้างว่าเขาไม่ค่อยมีหัวทางศิลปะเท่าไหร่ จะดูแลจัดการเรื่องฉากและพร็อพไหวหรือ แต่เมื่อครูไก่ ชิงชัย สายสินธุ ยืนยันว่าอาร์ททำได้เพราะมีพ่อเป็นช่างไม้ประจำหมู่บ้าน ดังนั้นลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ทั้งอาร์ทยังเป็นผู้ชายไม่กี่คนในมรดกใหม่ที่ตีตะปูแล้วตะปูไม่งอ..!


เป็นอันว่าด้วยเหตุผลแบบซื่อๆ นี้เองที่ส่งให้อาร์ทต้องดูแลงานสำคัญใช่เล่น แต่นั่นแหละด้วยศักดิ์ของความเป็นพี่ใหญ่แล้ว เขาเองก็ต้องพิสูจน์ให้น้องๆ เห็นถึงภาวะผู้นำของเขา มากกว่าจะพอใจอยู่แค่การตีตะปูไม่งอ

งานทั่วไปของฝ่ายนี้คือการจัดเตรียมฉากและสถานที่ให้พร้อมก่อนถ่ายทำ ในทีมเป็นเด็กหนุ่มวัยบ้าพลังทั้งนั้น เรื่องใช้แรงงานไม่ห่วง แต่หากเป็นเรื่องออกแบบฉากนั้นพวกเขายังต้องพึ่งคำปรึกษาจากพี่ติ้วพี่ไก่อยู่เนืองๆ โจทย์ใหญ่จริงๆ ของอาร์ทคือการต้องสร้างเรือนชัชวาลย์จำลองที่แก่งปลาปก อำเภอปากชม จังหวัดเลย ให้ได้ลักษณะใกล้เคียงกับเรือนชัชวาลย์หลังแท้ที่โรงละครคลองหก และที่ยากขึ้นไปอีกคือ ทีมนี้ต้องทำเรือนแทบทั้งหลังโดยใช้เวลาแค่สองวันเพื่อให้ทันก่อนทีมกองถ่ายจะเปลี่ยนโลเกชั่นยกกองไปถ่ายทำที่นั่น


สถานการณ์แสนบีบคั้น เหตุใดจึงมีเวลาเหลือน้อยเช่นนี้ นั่นเพราะก่อนหน้านี้ ตัวเรือนชัชวาลย์ที่แก่งปลาปกทางมรดกใหม่ได้ว่าจ้างช่างชาวบ้านแถวนั้นให้เป็นคนทำ แต่ด้วยความที่ชาวมรดกใหม่ต้องมายุ่งเตรียมงานถ่ายทำอยู่ที่สำนักคลองหก ที่แก่งปลาปกจึงปล่อยให้ช่างทำกันไปเอง ซึ่งช่างชาวบ้านก็คือช่างชาวบ้าน วันไหนเมาค้างก็ไม่มาทำงาน หรือบางวันมาทำงานได้ชั่วโมงสองชั่วโมงก็หนีหายไปแล้ว ครั้นพอโทรตามงานก็อ้างโน่นอ้างนี่ สุดท้ายงานก็ทิ้งค้าง กลายเป็นภาระเต็มๆ ให้เหล่าหนุ่มๆ ฝ่ายฉากและสถานที่ต้องกระโดดลงจัดการแทน


อาร์ทบอกว่า ตอนแรกนึกว่าต้องมาซ่อมเป็นบางจุด ที่ไหนได้ เมื่อเห็นตัวเรือนจริงๆ ปรากฏว่ามีแต่เสากับหลังคาและปูพื้นไปได้นิดเดียว เรือนชัชวาลย์สองจึงแทบทำใหม่ทั้งหลังด้วยแรงของพวกเขากับระยะเวลาที่ดูโหดร้ายเกินไป แต่ไม่ว่าอย่างไรอาร์ทก็แบ่งหน้าที่ให้น้องๆ ทุกคนทำทันที ใครที่ต้องเข้าฉากถ่ายทำหนังก็แยกออกไป ใครที่ยังไม่มีคิวถ่ายก็ขึ้นไปสร้างบ้านทำฉากที่แก่งปลาปก จังหวัดเลย เมื่อนับจำนวนคนแล้วก็เหลือเพียงโอ๋ แชมป์ ธัน คอปเตอร์ ชาน ชาดก ก้าว มะตูม ขนุน และจีน จึงเป็นว่าด้วยจำนวนคนเท่านี้กับเวลาสองวัน และการงานที่ต้องทำ คำนวณแล้วเด็กหนุ่มทีมนี้ต้องทำงานกันแทบ 24 ชั่วโมง


“ไม่มีปัญหาอะไรพี่ ใครง่วงก็งีบอยู่ตรงนั้นแหละ ใครงีบนานเดี๋ยวคนอื่นก็เรียกเอง โดยโอ๋เขาจะช่วยดูน้องๆ อีกทีนึง”

อาร์ทเล่าให้ฟังถึงช่วงที่อดหลับอดนอนเพื่อสร้างเรือนชัชวาลย์หลังที่สอง

“จริงๆ แล้วก็มีน้องจากฝ่ายอื่นมาช่วยตัดไผ่ด้วย อย่างบอลที่ทำดนตรีก็มาช่วยแบกไม้อยู่หลายวัน”
“แล้วเรือนชัชวาลย์เสร็จทันถ่ายทำมั้ย”
“เสร็จ..แต่รายละเอียดนั้นไม่ได้เลย ตอนถ่ายทำฉากบนเรือนต้องตามปะตามแก้ผนังเพดานกันตลอด ยิ่งพอผู้กำกับมองผ่านจอมอนิเตอร์ยิ่งเห็นรายละเอียดชัด รูต่างๆ ที่เกิดจากการประกบไม้ไม่แนบสนิทซึ่งมีอยู่เต็มไปหมด ทำให้แสงลอดผ่านมากเกินไปจนดูไม่เป็นเรือนอยู่อาศัยของคน”
“แล้วแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันยังไง”
“ใช้ผ้าดำมาขึงครับพี่ ต้องบอกว่านึกอะไรไม่ออกก็ให้คิดถึงผ้าดำเอาไว้”

สิ่งที่อาร์ทเล่านั้นไม่ได้เกินจริงเลย ผมยืนยันได้ว่าตอนที่ผมไปเห็นผลงานของพวกเขานั้นต้องร้องว้าวและตบมือให้กับความอึดถึกของเด็กหนุ่มทุกคน เพราะไม่กี่วันก่อนหน้า พวกเราดูรูปถ่ายที่ช่างบ้านๆ ฝากไว้ให้ดูต่างหน้านั้นก็เห็นเรือนที่มีแต่โครงสร้างเท่านั้น แทบไม่อยากเชื่อว่าเด็กๆ ที่ข้อไม้ข้อมือของพวกเขาถูกฝึกให้ตีระนาดและเล่นเครื่องดนตรีอย่างอื่นอยู่ทุกเช้าจะกรำกร้านฟัดสู้กับงานหนักเยี่ยงช่างไม้ได้อย่างไม่อิดออด


แต่นั่นแหละ แม้เรื่องใหญ่ๆ หนักๆ จะผ่านไปได้ แต่ก็ใช่ว่าจะวางใจได้กับเรื่องเล็กๆ ซึ่งความผิดพลาดลักษณะนี้มีเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อาทิ มีฉากหนึ่งที่ตัวละครตัวหนึ่งต้องถูกกระชากกำไลข้อมือซึ่งเป็นลูกปัดร้อยเชือก แต่ฝ่ายดูแลเรื่องพร็อพกับไม่เอ๊ะใจว่าต้องทำกำไลเผื่อไว้หลายๆ วง ยิ่งเมื่อเป็นซีนดราม่าด้วยแล้ว มันต้องมีหลายเทคแน่ๆ และก็เป็นไปตามนั้น ในซีนนี้ผู้กำกับสั่งเทคแล้วเทคอีก และแทนที่จะหงุดหงิดอยู่แต่ในส่วนของนักแสดง กลับกลายเป็นว่าต้องอารมณ์เสียเข้าไปอีกกับการต้องรอฝ่ายพร็อพนั่งร้อยลูกปัดทุกครั้งหลังจากสั่งคัท หนำซ้ำลูกปัดที่ถูกกระชากกระจุยกระจายไปทั่วทำให้เสียเวลางมหากันให้วุ่น กว่าจะผ่านซีนนี้ได้ก็กินเวลาไปเนิ่นนาน

“ไม่มีใครคิดถึงจุดนี้เลยพี่ ผมเองก็พลาดอย่างแรงที่ไม่ร้อยกำไลเผื่อไว้เป็นสิบอันตั้งแต่แรก”
“มันเหนื่อยแต่ก็สนุกดีนะ”

แชมป์ ลูกทีมฝ่ายฉากออกความเห็นบ้าง

“แม้จะพลาดไปบ้างในบางจุด แต่ส่วนใหญ่พวกเราก็ช่วยเหลือกันดี

โดยเฉพาะเรื่องแรงงาน ผมว่าพวกเราฟิตกันทุกคน”

แชมป์ทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดี




ดู 22 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page